วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทุกคนบ่นว่างานหนัก

คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น กับคนยุคนี้ พากันบ่นอย่างมากว่า ทำงานหนัก
เงินน้อยไม่พอใช้ ใช่ครับผม นี่ไม่ใช่ว่ามันเพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นนานแล้ว

ทำไมน่ะเหรอ ก็แค่เพราะ "คนเรา อดทนไม่พอ"...
ใช่ครับ ฟังไม่ผิดแน่ คนเรานั้นอยากทำงานสบาย เงินดี มีอำนาจตัดสินใจ มีอิสระในทุกๆ อย่าง
แต่อดทนไม่ได้ ใจร้อน อยากได้สิ่งนั้นโดยไวที่สุด


เราโดนหลอกในยุคที่สังคมพากันสวมหน้ากาก "อายุน้อยๆ ร่ำรวย สำเร็จอย่างรวดเร็ว"
แล้วยังไงต่อ ใช่เลยครับ ผู้คนเลยพากันแห่ไปทำ อะไรก็ได้ ย้ำครับ อะไรก็ได้ ที่ทำให้เขา
รวยเร็วๆ ตั้งแต่อายุน้อย ยิ่งถ้าสิ่งนั้นสบายๆ ไม่ลำบากล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึง
แห่ไปทำจนใบสมัครหมดเกลี้ยง

เห็นได้เลยจาก "ขายตรง" หรืออาชีพ "ขายครีมออนไลน์" หรืออะไรก็ช่างครับ
ที่ได้เงินเยอะๆ และรวยไว

ความจริงของโลกก็คือ "ความสำเร็จ" มันไม่ได้สร้างกันได้ง่ายๆ ในเวลาแค่ไม่กี่ปี
ที่คุณได้รับ ได้เห็นนั้น มันคือเปลือกของ "หน้ากาก" ที่เขาสวมใส่ มาหาคุณ

ทุกๆ ความสำเร็จ ต้องอดทน และใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในการทำอะไรสักอย่าง
ให้เกิดขึ้นได้ และสำเร็จได้ มันต้องผ่านความล้มเหลว ความเจ็บปวด น้ำตา ความเหนื่อย
และอีกหลายๆ อย่างเป็นบททดสอบคุณตลอดเส้นทาง...

หากมีคนยังบ่นว่าตัวเองทำงานหนัก ลองมาทำธุรกิจของตัวเองครับ คุณจะได้พบกับสถานที่ทำงาน
7 วันต่อสัปดาห์ ไม่มีโบนัส ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีโอที ไม่มีเวลาเลิกงาน
ความเสี่ยงสูงมากครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ล้ม ได้ล้มแน่ แต่จะล้มแบบไหน จังหวะไหนเท่านั้นเอง

หลายคนในวันนี้เราทำงานอย่างหนักด้วยความจำเป็น เพียงเพื่อซื้อของที่ "ไม่จำเป็น" สำหรับเรา
บางคนยังไม่มีความจำเป็นต้องมีรถ ก็ไปออกรถมาขับ
บางคนยังไม่จำเป็นต้องมีบ้าน ก็ไปออกบ้านมาอยู่
บางคนยังไม่จำเป็นต้องมีกระเป๋าใบละแสน ก็หาเงินซื้อมันมาสะพาย

เพราะเราไปวาดภาพว่าตัวเองสำเร็จ เลยอยากใช้ชีวิตแบบคนสำเร็จ ก็พากันพยายามออกของสารพัด
ทำงานหนักอย่างมาก เพื่อให้มี "วัตถุ" ต่างๆ ประดับตัว

...หากสิ่งใดที่ทำ แล้วมันเหนื่อย
...รู้สึกว่าหนักเกินกำลัง
...ไม่มีความสุขกับมัน
... " นั่นแสดงว่า มันผิด "

มันไม่ใช่เราแล้วล่ะ คุณคงต้องคิดทบทวนอะไรบางอย่าง เพื่อให้มองเห็นทางออก
ก่อนจบบทความในวันนี้ ผมอยากบอกว่า ตอนที่ผมมาเริ่มทำธุรกิจของตัวเองนั้น
ผมใช้เพียง Notebook เก่าๆ เครื่องนึง ที่ซื้อมาในราคาเพียง 13,000 (สมัยเมื่อปี 2009)
ซึ่งถือว่าถูกสุดในร้าน และสเปคต่ำมากๆ

อ้อ และผมก็นอนในห้องเก็บของที่บ้าน (เพราะผมไม่มีห้องนอน)
และผมก็ห่อข้าวมากิน ในมหาลัย
นั่งใต้ต้นไม้บ้าง โรงอาหารบ้าง (หาปลั้กไฟเสียบ แบตเต็มก็ย้ายที่นั่ง)
เพื่อ "เขียนโปรแกรม"...

เอาล่ะครับ นั่นคือจุดเริ่มต้นของผม ในวันแรกๆ ที่เริ่มทำธุรกิจตัวเอง เห็นไหมว่า
คนเราไม่จำเป็นเลยที่จะต้องสร้างภาระมากมาย เพียงเพื่อให้ตัวเอง ทำงานหนักขึ้น
และหนักขึ้น ซึ่งสุดท้ายก็เอาไปซื้อของที่ "ยังไม่จำเป็น" กับเรา ในวันนี้

ขอให้สนุกกับงานครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น